โรคไตเรื้อรัง (Chronic Kidney Disease – CKD) คือภาวะที่การทำงานของไตลดลงอย่างต่อเนื่อง แบ่งออกเป็น 5 ระยะตามค่าอัตราการกรองของไต (eGFR) ซึ่งแสดงถึงความสามารถของไตในการกรองของเสียออกจากเลือด การทราบถึงความแตกต่างของอาการ ผลการตรวจเลือด สาเหตุ และการดูแลตัวเองในแต่ละระยะเป็นสิ่งสำคัญในการจัดการโรคนี้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในข้อมูลด้านล่างนี้จะขออธิบายถีงรายละเอียดที่มีความจำเป็นในทุกระยะของโรคไตเพื่อให้ผู้อ่านทุกท่านจดจำและสามารถส่งต่อข้อมูลสำคัญนี้ไปบุคคลที่รัก หากเราสามารถหยุดวงจรนี้ได้เราจะมีเวลาใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขกับครอบคระวและคนที่คุณรัก งานในทุกด้านที่เราต้องการเห็นผลสำเร็จของมัน
ระยะที่ 1: eGFR ≥ 90 มล./นาที/1.73 ตร.ม.
อาการ: มักไม่มีอาการชัดเจน ไตยังทำงานได้เกือบปกติ
ผลการตรวจเลือด: ค่า eGFR ปกติหรือสูงกว่า 90
สาเหตุ: ความดันโลหิตสูง เบาหวาน หรือโรคไตที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม
การดูแลตัวเอง: ควบคุมความดันโลหิตและระดับน้ำตาลในเลือด รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ
ระยะที่ 2: eGFR 60-89 มล./นาที/1.73 ตร.ม.
อาการ: ยังคงไม่มีอาการชัดเจน แต่เริ่มมีการเสื่อมของไตเล็กน้อย
ผลการตรวจเลือด: ค่า eGFR ลดลงเล็กน้อยอยู่ระหว่าง 60-89
สาเหตุ: เช่นเดียวกับระยะที่ 1
การดูแลตัวเอง: ติดตามการทำงานของไตอย่างใกล้ชิด ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค ลดการบริโภคเกลือ และหลีกเลี่ยงยาที่มีผลกระทบต่อไต
ระยะที่ 3: eGFR 30-59 มล./นาที/1.73 ตร.ม.
อาการ: อาจเริ่มมีอาการเหนื่อยล้า บวมที่มือและเท้า ปัสสาวะเปลี่ยนสี
ผลการตรวจเลือด: ค่า eGFR ลดลงอยู่ระหว่าง 30-59
สาเหตุ: โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือโรคไตอื่นๆ
การดูแลตัวเอง: ควบคุมอาหาร ลดโปรตีนและเกลือ ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับยาที่ใช้ และติดตามการทำงานของไตอย่างสม่ำเสมอ
ระยะที่ 4: eGFR 15-29 มล./นาที/1.73 ตร.ม.
อาการ: อาการชัดเจนขึ้น เช่น เหนื่อยล้า เบื่ออาหาร คันผิวหนัง
ผลการตรวจเลือด: ค่า eGFR ลดลงอยู่ระหว่าง 15-29
สาเหตุ: การเสื่อมของไตอย่างต่อเนื่องจากสาเหตุต่างๆ
การดูแลตัวเอง: เตรียมความพร้อมสำหรับการบำบัดทดแทนไต เช่น การฟอกไต หรือการปลูกถ่ายไต ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
ระยะที่ 5: eGFR < 15 มล./นาที/1.73 ตร.ม.
อาการ: อาการรุนแรง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน หายใจถี่ อาการบวมที่มือและเท้า
ผลการตรวจเลือด: ค่า eGFR ต่ำกว่า 15
สาเหตุ: ไตวายระยะสุดท้ายจากการเสื่อมของไต
การดูแลตัวเอง: เริ่มการบำบัดทดแทนไต เช่น การฟอกไต หรือการปลูกถ่ายไต และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
การดูแลตัวเองในทุกระยะของโรคไตเรื้อรังเป็นสิ่งสำคัญ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสม และติดตามการทำงานของไตอย่างสม่ำเสมอ